ถ้าเว็บสวยแต่ยอดขายพัง! เพื่อนต้องรู้แล้วว่าเว็บไซต์มันมากกว่าแค่ความสวยนะ
ในยุคที่ใคร ๆ ก็พูดถึงการมีตัวตนบนโลกออนไลน์ การมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยใช่ไหมคะ? แต่เพื่อน ๆ เคยเจอปัญหาแบบนี้บ้างไหมคะ? ลงทุนไปตั้งเยอะให้บริษัทรับทำเว็บไซต์ ทำให้จนออกมาสวยอลังการงานสร้าง แต่ทำไมยอดขายยังนิ่งสนิทเหมือนเดิม หรือลูกค้าทักมาแป๊บเดียวก็หายไปเฉยเลย?
ถ้าเพื่อน ๆ กำลังเจอกับสถานการณ์นี้อยู่ บอกเลยว่าเพื่อนไม่ได้อยู่คนเดียวนะคะ เพราะปัญหานี้เป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามไปจริง ๆ ค่ะ! หลายครั้งที่เราทุ่มงบไปกับการออกแบบให้เว็บดูสวย ดูแพง แต่กลับลืมไปว่า “หัวใจหลัก” ของเว็บไซต์ที่ดีจริง ๆ มันไม่ใช่แค่เรื่องความสวยอย่างเดียว แต่คือการทำให้เว็บไซต์นั้น “ขายของได้” ต่างหาก
วันนี้เมย์จะมาแชร์ประสบการณ์และให้ความรู้แบบจัดเต็มเลยค่ะว่า การทำเว็บไซต์ให้ประสบความสำเร็จมันต้องมีอะไรบ้าง และทำไมเว็บไซต์ที่สวยแต่ขายไม่ได้ถึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายยิ่งกว่าการไม่มีเว็บไซต์เสียอีก! ถ้าพร้อมแล้ว เรามาเริ่มกันเลยค่ะ!
สวยอย่างเดียวไม่พอ… 5 สิ่งที่คนทำเว็บไซต์ต้องรู้ถ้าอยากให้ยอดขายพุ่ง!
เพื่อน ๆ เคยสงสัยไหมคะว่าทำไมบางเว็บไซต์ถึงดึงดูดลูกค้าได้ดีกว่าเว็บของเรา? ทั้ง ๆ ที่เว็บของเราก็ดูสวยงามไม่แพ้กันเลยนะ! คำตอบง่าย ๆ เลยค่ะ มันอาจเป็นเพราะเว็บไซต์เหล่านั้นถูกออกแบบมาเพื่อ “ตอบโจทย์ลูกค้า” ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาเลยต่างหาก!
การทำให้เว็บไซต์ “ขายของได้” มันคือการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบ พูดง่าย ๆ ก็คือทำให้ลูกค้ารู้สึกอยากซื้อ อยากใช้บริการ และไม่ลังเลที่จะจ่ายเงินให้เรานั่นเองค่ะ! ซึ่งสิ่งที่เมย์กำลังจะพูดถึงต่อไปนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ และเป็นสิ่งที่บริษัทรับทำเว็บไซต์มืออาชีพจะให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเลยค่ะ
- เว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย (User-Friendly) คือหัวใจสำคัญ: ลองนึกภาพตามนะคะ ถ้าเราเข้าไปในเว็บไซต์ที่หาข้อมูลสินค้ายาก ปุ่มกดสั่งซื้อก็หายาก หรือกว่าจะโหลดแต่ละหน้าได้ก็กินเวลานานจนหงุดหงิด เพื่อน ๆ ยังอยากจะอยู่ต่อไหมคะ? แน่นอนว่าต้องปิดทิ้งไปแน่นอน! ดังนั้น การออกแบบเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย โครงสร้างชัดเจน และโหลดไว จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่จะทำให้ลูกค้าอยู่กับเรานานขึ้น
- คอนเทนต์ที่ดึงดูดและมีประโยชน์: คอนเทนต์เปรียบเสมือน “เซลล์” ที่คอยให้ข้อมูลลูกค้าอยู่ตลอดเวลาค่ะ! การมีรูปภาพสินค้าที่สวยงามและคำอธิบายที่ชัดเจนจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือได้ แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั้นคือการเพิ่มคอนเทนต์ที่ให้ความรู้หรือแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ด้วย เช่น บทความรีวิวการใช้งาน เคล็ดลับต่าง ๆ หรือแม้แต่วิดีโอสาธิตการใช้สินค้า ก็จะยิ่งทำให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้าจากเรามากขึ้น
- การมี Call-to-Action (CTA) ที่ชัดเจน: เคยไหมคะที่เข้าเว็บแล้วไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อ? นั่นแหละค่ะคือปัญหา! เว็บไซต์ที่ดีต้องมีปุ่มหรือข้อความที่กระตุ้นให้ลูกค้าทำอะไรบางอย่าง เช่น “ซื้อเลย” “ติดต่อเรา” หรือ “สมัครสมาชิก” ที่เห็นได้ชัดเจนและโดดเด่น เพื่อนำทางลูกค้าไปสู่ขั้นตอนต่อไปอย่างไม่สะดุด
- ระบบหลังบ้านที่จัดการง่าย: ในฐานะเจ้าของธุรกิจ การจัดการเว็บไซต์ที่ดีก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันเลยค่ะ! ระบบหลังบ้านที่ใช้งานง่ายจะช่วยให้เราอัปเดตข้อมูลสินค้า จัดการออเดอร์ หรือแก้ไขคอนเทนต์ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เรามีเวลาไปโฟกัสกับการขายมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ บริษัทรับทำเว็บไซต์ ควรให้ความสำคัญและแนะนำลูกค้าอย่างตรงไปตรงมา
- การวัดผลและวิเคราะห์ข้อมูล: สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เว็บไซต์ที่ดีต้องวัดผลได้ค่ะ! การติดเครื่องมืออย่าง Google Analytics จะช่วยให้เรารู้ว่าลูกค้ามาจากไหน สนใจสินค้าอะไร และมีพฤติกรรมอย่างไรบนเว็บไซต์ของเรา ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีค่ามาก ๆ สำหรับการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ
ทำไมการเลือกบริษัทรับทำเว็บไซต์ถึงเป็นเรื่องที่ต้องคิดให้ดีกว่าแค่ราคาถูก?
เมย์เข้าใจดีค่ะว่าหลายคนอาจจะมองหาบริษัทรับทำเว็บไซต์ที่มีราคาไม่แพง เพื่อประหยัดต้นทุน ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่ผิดเลยค่ะ! แต่สิ่งที่เมย์อยากให้เพื่อน ๆ คิดให้ดีก็คือ “เราจะได้อะไรกลับมาบ้าง?” เพราะการทำเว็บไซต์ไม่ใช่การจ่ายเงินครั้งเดียวแล้วจบ แต่เป็นการลงทุนระยะยาวที่จะช่วยให้ธุรกิจของเราเติบโตได้อย่างยั่งยืน
เมย์เคยเจอเพื่อนคนหนึ่งที่ไปจ้างทำเว็บไซต์ราคาถูกมาก ๆ พอเว็บไซต์ทำเสร็จก็ดูสวยดีในตอนแรกค่ะ แต่พอใช้งานไปได้ไม่นานก็เริ่มมีปัญหา เว็บไซต์โหลดช้า แก้ไขข้อมูลเองก็ไม่ได้ แถมพอจะกลับไปให้เขาแก้ก็ติดต่อไม่ได้แล้ว สุดท้ายก็ต้องยอมเสียเงินทำใหม่กับบริษัทรับทำเว็บไซต์ที่เป็นมืออาชีพอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งบอกเลยว่าเจ็บตัวกว่าเดิมเยอะเลยค่ะ!
เพราะฉะนั้น การเลือกบริษัทรับทำเว็บไซต์ที่ดีจึงต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของประสบการณ์ ผลงานที่ผ่านมา รีวิวจากลูกค้า หรือแม้กระทั่งการบริการหลังการขาย ว่าเขาพร้อมจะซัพพอร์ตเราในระยะยาวไหม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ และคุ้มค่ากับการลงทุนในระยะยาวแน่นอนค่ะ
อยากให้ธุรกิจออนไลน์ปังกว่าเดิม? อย่ามองข้ามการตลาดดิจิทัล!
หลายคนคิดว่าพอมีเว็บไซต์แล้วก็จบ! แต่ในความเป็นจริงแล้ว การมีเว็บไซต์เป็นเพียงแค่ “จุดเริ่มต้น” เท่านั้นค่ะ การจะทำให้ธุรกิจออนไลน์ของเราเติบโตได้จริง ๆ ต้องมี “การตลาดดิจิทัล” เข้ามาเป็นตัวช่วยด้วย
ลองนึกภาพตามนะคะ! เรามีร้านค้าที่สวยงามตั้งอยู่ แต่ไม่มีใครเดินผ่าน ไม่มีใครรู้จัก! ต่อให้ร้านเราสวยแค่ไหนก็ไม่มีวันขายของได้จริงไหมคะ? เว็บไซต์ของเราก็เหมือนกันค่ะ การตลาดดิจิทัลจะทำหน้าที่เหมือนการ “โปรโมท” ร้านค้าของเราให้คนอื่นรู้จัก
การทำ SEO (Search Engine Optimization) ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญมาก ๆ ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับต้น ๆ บน Google ทำให้คนเจอเราได้ง่ายขึ้นเมื่อค้นหาสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้อง และยังเป็นการเพิ่ม Traffic หรือผู้เข้าชมเว็บไซต์แบบ Organic อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีกลยุทธ์อื่น ๆ อีกมากมาย เช่น การทำคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้ง (Content Marketing) การทำโฆษณาออนไลน์ (Paid Ads) หรือการใช้โซเชียลมีเดียในการโปรโมทสินค้า ซึ่งการทำสิ่งเหล่านี้ควบคู่ไปกับการมีเว็บไซต์ที่ดี จะช่วยเสริมให้เว็บไซต์ของเรามีประสิทธิภาพและสร้างยอดขายได้อย่างมหาศาลเลยค่ะ!
บทสรุปของเรื่องนี้ก็คือ…
การทำเว็บไซต์ให้ประสบความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสวยงามเพียงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้วค่ะ แต่คือการสร้างเว็บไซต์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ตั้งแต่ต้นจนจบ การใช้งานง่าย คอนเทนต์ดี และมีระบบที่รองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต
ถ้าเพื่อน ๆ กำลังมองหา บริษัทรับทำเว็บไซต์ อยู่ อยากให้ลองมองหาบริษัทที่ไม่ได้ทำแค่เว็บไซต์ให้สวย ๆ แต่สามารถเป็นที่ปรึกษาให้เราได้ในทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนกลยุทธ์ การออกแบบ และการตลาด เพื่อให้เว็บไซต์ของเราเป็นเครื่องมือทำเงินได้อย่างแท้จริง!
เพราะการลงทุนทำเว็บไซต์ในวันนี้คือการลงทุนในอนาคตของธุรกิจเราค่ะ! ถ้าเราเลือกถูกตั้งแต่ต้น การเติบโตก็จะมาอย่างรวดเร็วและยั่งยืนแน่นอน!

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น